วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556



สวัสดีกันอีกครั้งครับ วันนี้ผมขอถือโอกาสพาทุกคนมาพบกับสิ่งอะไรใหม่ๆ ซึ่งหากพูดถึงของอะไรที่เกิดขึ้นใหม่แล้วก็คงไม่เป็นที่คุ้นหูคุ้นตากันทั่วไปใช่ไหมล่ะครับ

            “ความใหม่” ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด การกระทำ หรือแม้แต่การนำสิ่งที่มีอยู่เดิมมาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เมื่อนำมาใช้กับงานก็สามารถทำให้งานชิ้นนั้นมีผลสัมฤทธิ์ดียิ่งขึ้น จากความหมายข้างต้นได้ถูกกำหนดเป็นคำๆหนึ่งที่สั้นกระชับว่า “นวัตกรรม” และเมื่อนำคำว่า “นวัตกรรม” มาใช้กับการศึกษาก็จะเรียกว่า “นวัตกรรมการศึกษา” นั่นเองครับ
                                                                                      (กิดานันท์  มะลิทอง, 2540)
                                                                                                                    ชัยยศ  เรืองสุวรรณ, 2521)

                สำหรับผู้ที่ติดตามข่าวไอทีในหลายเดือนที่ผ่านมาคงจะเห็นโปรดัคท์ใหม่ของกูเกิลตามหน้าหนังสือพิมพ์และอินเตอร์เน็ต ซึ่งทำให้คนทั้งโลกฮือฮากับความมหัศจรรย์ของนวัตกรรมตัวนั้น นวัตกรรมที่ว่านี้ก็คือ “กูเกิลกลาส” แว่นตาอัจฉริยะที่ทำหน้าที่ได้ราวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมเครื่องหนึ่ง





            แต่วันนี้ผมไม่ได้มาแสดงความสามารถของกูเกิลกลาสที่คนทั่วโลกจะได้สัมผัสในอีกหนึ่งปีข้างหน้าหรอกครับ หากจะขอโชว์ความเป็นกูเกิลกลาสอีกมิติหนึ่งที่สามารถใช้เป็นเครื่องนำทางแก่ผู้พิการทางสายตาได้อย่างวิเศษสุดทีเดียวครับ



            กูเกิลกลาสถือได้ว่ากำลังจะเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ทำให้คนทั่วโลกสามารถรับข้อมูลข่าวสารได้รวดเร็ว โดยผ่านแว่นตาซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงกับระบบสัญญาณอินเตอร์เน็ต แต่ใครจะรู้ว่าอุปกรณ์อีเลกโทรนิคชิ้นนี้จะเอื้อต่อการใช้งานของผู้ที่มีความบกพร่องทางการเห็น.... ด้วยใช่ไหมครับ

            คำตอบก็คือบริษัทแด็บเปอร์วิชั่นได้พัฒนาระบบที่เรียกว่า “โอเพนกลาส” ระบบที่ช่วยให้ผู้พิการทางสายตาสามารถใช้อุปกรณ์เพื่อช่วยระบุสิ่งของต่างๆตลอดจนการให้ข้อมูลที่ต้องการผ่านระบบกูเกิลกลาส




            วิธีใช้งานมี 2 วิธีด้วยกัน
1.       วิธีมีเมนโต้ เป็นวิธีใช้การถามตอบแบบทันที โดยมีฐานข้อมูลคำตอบที่ได้สร้างไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว


2.       วิธีใช้การถามตอบ โดยผู้ใช้บริการจะถ่ายรูปสิ่งของด้วยแว่นตา จากนั้นจะใช้เสียงพูดเป็นคำสั่งส่งรูปไปยังทวิตเตอร์ หรือบริการแมคคานิคเคิลเทิร์คของอเมซอน เพื่อประมวลคำตอบว่ารูปนั้นเป็นสิ่งของชนิดใด เมื่อระบบประมวลคำตอบเสร็จเรียบร้อย ผู้ใช้บริการจะได้รับคำตอบเป็นเสียงพูดจากแว่นตาที่สวมใส่อยู่นั่นเอง


                จากทั้งสองตัวอย่างทุกคนคงจะเห็นประสิทธิภาพกับของเล่นชิ้นนี้กันแล้วนะครับ ซึ่งถ้าของเล่นชิ้นนี้ออกสู่ตลาดให้ผู้พิการทางสายตาได้เป็นเจ้าข้าวเจ้าของ พวกเขาก็จะมีเครื่องช่วยเป็นสื่อกลางให้เรียนรู้สิ่งที่อยู่รอบตัวได้อย่างทั่วถึงและมีความแม่นยำได้ดียิ่งขึ้น

            เพราะฉะนั้นการเรียนรู้ที่ดูเหมือนว่าเป็นข้อจำกัดของพวกเขาอยู่ในขณะนี้ เมื่อนับถอยหลังอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ข้อจำกัดดังกล่าวก็คงถูกขจัดได้ด้วยนวัตกรรมชิ้นใหม่ที่คอยช่วยเปิดโลกกว้างแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น